Lisa Clarke ได้เขียนบทความ แนะนำวิธีการถ่ายรูปให้ดีขึ้น ดังนี้ครับ
ฉันจะถ่ายรูปให้ดีขึ้นได้อย่างไร ?
ฉันโชคดีมากที่รู้จักอัจฉริยะด้านการถ่ายภาพมากมาย พวกเขาแนะนำฉันมากมาย ถ้าไม่มีพวกเขา ไม่มีทางที่ฉันจะกลายเป็นช่างภาพอย่างทุกวันนี้ได้
และคำถามที่ฉันถามพวกเขาคือ “ฉันจะถ่ายรูปให้ดีขึ้นได้อย่างไร ?” ฉันได้รวบรวมทิปและเทคนิคต่างๆอยู่หลายปี วันนี้ฉันจะมาแบ่งปัน เทคนิคที่ทำให้คุณก้าวไปอีกขั้น ดังนี้
1) ใกล้อีกนิด
อย่างที่ช่างภาพชื่อดังอย่าง Robert Capa เคยกล่าวไว้ว่า
หากภาพของคุณไม่ดีพอ แสดงว่าคุณยังไม่ใกล้พอ
ดังนั้นหากภาพของคุณยังไม่เจ๋ง ลองเข้าไปอีกก้าว หรือ สองก้าว เพื่อเข้าใกล้ subject ของคุณมากขึ้น เติมเต็มเฟรมของคุณด้วย subject ของคุณ และดูว่าภาพของคุณดีขึ้ยังไง เมื่อไม่มีเนื้อที่ว่างๆมากเกินไป ยิ่งใกล้ตัวแบบ มากขึ้น คุณก็สามารถเห็นการแสดงออกทางสีหน้าของตัวแบบได้มากขึ้น
2) ถ่ายรูปทุกวัน
ทางที่ดีที่สุดในการลับสกิลของคุณคือฝึก ฝึก และ ฝึก ถ่ายให้มากที่สุดเท่าที่คุณทำได้ ใช้เวลาในการอยู่หลังกล้องให้มากๆ และทักษะทางด้านเทคนิค ความสามารถในการควบคุมมันในการเล่าเรื่อง ก็จะเพิ่มขึ้นตามเวลาที่คุณใช้มัน อย่ากังวลมากไปเกี่ยวกับการถ่าย ประสปการณ์, สไตล์ของคุณ, เสียงของคุณ จะปรากฏออกมา และมันจะชัดขึ้น – Leah Robertson
3) มองแสง
ก่อนจะหยิบกล้องคุณขึ้นมา ให้ลองสังเกตุว่าแสงมาจากทางไหน และใช้มันให้เกิดประโยชน์ แสงมาจากดวงอาทิตย์หรือ แสงเทียมเช่นหลอดไฟ และเราจะใช้มันทำให้ภาพดีขึ้นได้อย่างไร ?
แสงมันกระทบฉาก หรือวัตถุอย่างไร มีพื้นที่ไหนโดนแสง มีพื้นที่ไหน เป็นเงา ทั้งหมดนี้จำทำให้คุณถ่ายภาพธรรมดาๆ ได้อย่างไม่ธรรมดา
4) สอบถามสิทธิ์
เมื่อเราถ่ายคนโดยเฉพาะประเทศที่มีวัฒนธรรมและภาษาต่างจากเรา มันยากที่จะติดต่อสื่อสารกัน ในบางประเทศหากคุณไปถ่ายคนที่ควรควรถ่าย อาจเกิดปัญหาตามมา ดังนั้นควรถาม หรือ ขอ พวกเขาก่อนจะถ่าย ฉันเคยไปถ่ายเด็กๆ ในปากีสถาน ไกด์ของฉันช่วยฉันสื่อสาร และฮะนก็ยิ้มให้พวกเขา จับมือ ทักทาย และโชว์รูปหลังกล้องให้พวกเขาดูเมื่อถ่ายเสร็จ คุณจะประหลาดใจว่าพวกเขาเปิดใจรับคุณได้เร็วได้ขนาดนั้นได้อย่างไร – Andrea Francolini
5) ใช้แฟลช ตอนกลางวัน
คุณอาจคิดว่าควรใช้แฟลชเฉพาะกลางคืนเท่านั้น หรือ ในที่ร่ม แต่ถ้าคุณไปเจอแดดแรงๆ และดวงอาทิตย์ทำให้เกิดเงามืด คุณควรใช้แฟลชเพื่อลบเงาเพื่อให้ภาพดีขึ้น
6) ISO
มีคำถามที่ต้องถามตัวเองว่าเมื่อไหร่ ถึงจะใช้ ISO ไหน:
กี่โมงแล้ว ? ถ้าคุณถ่ายในตอนกลางวัน คุณจะต้องใช้ ISO ต่ำ อย่าง 100,200 ถ้าคุณถ่ายในกลางคืนโดยไม่มีขาตั้ง จะต้องเพิ่ม ISO ให้สูงขึ้น เพื่อเก็บแสงมาบน เซ็นเซอร์กล้องของคุณ
แสงลงที่วัตถุดีหรือยัง ? ถ้า subject หรือฉาก มืดเกินไป คุณจะต้องเพิ่มค่า ISO ขึ้น
คุณต้องการภาพคม หรือ ภาพที่มีการเคลื่อนไหว การใช้ชัตเตอร์สปีดสูง ทำให้คุณต้องใช้ ISO ที่สูง เพื่อเป็นการชดเชย ในทำนองเดียวกับถ้าอยากได้ภาพที่มีการเคลื่อนไหว ที่ใช้ ชัตเตอร์สปีดต่ำๆ เพื่อให้ภาพเบลอ คุณต้องใช้ ISO ต่ำๆ เพื่อชดเชย
อย่าลืมว่าการเพิ่ม ISO มันจะเพิ่ม Grain หรือ Pixel ในภาพ เมื่อใช้ ISO สูงเกินไปก็จะทำให้เกิน Noise มากขึ้นตามไปด้วย
7) F4
F4 เป็น aperture(รูรับแสง) หลักของฉัน ถ้าคุณใช้ aperture ที่กว้าง ด้วยเลนส์ระยะยาว (200mm-400mm)
คุณสามารถแยก subject ออกจาก background ได้ มันช่วยให้ subject เด่นขึ้น – Peter Wallis
8) เล่นมุกตลกบ้าง
เมื่อคุณเล่นมุกตลก คุณก็มักจะได้รอยยิ้มที่เป็นธรรมชาติ มากกว่าสั่งให้เขายิ้ม –Dean Bottrell
9) ซื้อหนังสือ ไม่ใช่อุปกรณ์
การมีกล้องแพงๆไม่ได้หมายความว่าคุณจะถ่ายภาพได้สวย ฉันเคยเห็นรูปสวยมากมายโดยใช้แค่มือถือ แทนที่จะใช้เลนส์เป็นสิบตัว ลงทุนกับหนังสือภาพดีๆ โดยดูจากงานของระดับ master คุณไม่เพียงได้แรงบันดาลใจ คุณจะได้ไอเดียเพื่อพัฒนารูปของคุณ
10) อ่านคู่มือของกล้องคุณ
วิธีที่ดีที่สุดที่จะรู้ว่าคุณทำอะไรกับกล้องคุณได้บ้างคืออ่านคู่มือ หลายคนพลาดขั้นตอนที่สำคัญไปในการถ่ายรูปของเขา กล้องทุกตัวนั่นต่างกัน อ่านคู่มือแล้วคุณจะรู้ว่าทุกอย่างที่มันสามารถทำได้
11) ช้าลงหน่อย
ใช้เวลาคิดซักหน่อยเกี่ยวกับอะไรที่เกิดขึ้นที่ช่องมองภาพ ก่อนที่จะกด ชัตเตอร์ คุณจะจัเองค์ประกอบอย่างไร คุณจะจัดการแสงอย่างไร อย่าถ่ายไปเรื่อยๆ โดยไม่คิด – Brad Marsellos
12) หยุดเช็ครูปหลังกล้องบ่อยๆ
มันเป็นนิสัยที่แย่ของช่างภาพที่ใช้กล้อง Digital บ่อยครั้งที่ฉันเห็นช่างภาพถ่ายปุ๊ปก็รีบดูหลังกล้องเลย โดยเขาพลาดจะพลาดจังหวะสำคัญๆ ไป คุณสามารถดูภาพของคุณทีหลังก็ได้ แต่หากคุณพลาดจังหวะเด็ดๆ ไปนั่นคือคุณพลาดโอกาสที่จะได้งานดีๆ ดังนั้นจงถ่ายไปเรื่อยๆ – Marina Dot Perkins
13) ใส่กรอบให้ภาพ (Framing)
เป็นเทคนิคที่ใช้เมื่อคุณอยากดึงความสนใจไปยังบางอย่างในภาพของคุณ การใส่กรอบฉากหรือวัตถุ อาจใช้หน้าต่างหรือ หลังคารูปโค้งนำสายาตไปยัง จุดที่น่าสนใจบนภาพ
14) ใช้แสงให้เป็นประโยชน์
อย่าถ่ายตอนที่ดวงอาทิตย์อยู่ข้างหลังคุณ มันจะได้รูปที่น่าเบื่อ แสงจะแบน ถ้าคุณถ่ายแสงเข้าด้านข้างหรือหลังวัตถุ มันทำให้วัตถุดูน่าสนใจขึ้น – Patria Jannides
15) ลายน้ำ
ทิปนี้ไม่เกี่ยวกับการถ่ายรูป แต่มันมีผลกระทบต่อรูปของคุณ เมื่อมีลายน้ำก็ควรทำให้เล็ก แต่ถ้าหลีกเลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยง
เมื่อคุณยังไม่ใช่มืออาชีพมากนัก มันมีโอกาสน้อยที่จะโดนขโมย แต่ถึงอย่างนั้น ความเป็นจริงแล้ว ลายน้ำก็ไม่ได้ช่วยจากการขโมยหรอก มันจะเป็นตัวเบนความสนใจจากภาพของคุณซะมากกว่า
ทางเดียวที่คุณจะป้องกันการขโมยภาพได้ คืออย่าอัพลงอินเตอร์เน็ต
16) เป็นมิตรกับคนที่จะถ่ายด้วย
คุณควรจะสบตาเขา เข้าไปทัก ไปพูดคุย และฟังเขา วางกล้องลงก่อน พยายามเชื่อสัมพันธไมตรี ค่อยหยิบกล้องมาถ่ายเมื่อได้จังหวะจริงๆ อย่าปฏิบัติต่อพวกเขาเมื่อการทดลองวิทยาศาสตร์ภายใต้กล้องจุลทรรศ์ คุณต้องเคารพคนที่คุณจะถ่ายด้วย แล้วภาพจะออกมาเป็นธรรมชาติมากขึ้น – Heather Faulkner
17) ความเร็วชัตเตอร์
การตะหนักถึงการใช้ความเร็วชัตเตอร์ของคุณ จะสร้างความแตกต่างระหว่างภาพเบลอ และภาพชัด มันขึ้นอยู่กับว่าอะไรที่คุณจะถ่ายด้วย ถ้าคถณถ่ายกีฬา หรือเด็กกำลังวิ่งในสนาม และคัณอยากให้ subject ชัด คุณอาจต้องการความเร็วชัตเตอร์มากกว่า 1/500 แต่ถ้าคุณอยากถ่ายแสงของรถที่เป็นไฟยาวๆ (car trail lights) คุณต้องใช้ความเร็วชัตเตอร์ต่ำๆ เพื่อถ่าย Long Exposure อาจ หนึ่ง วินาที สิบวินาที หรือมากกว่านั้น
18) ชาร์จแบตเตอรี่
มันเหมือนเป็นเรื่องธรรมดา แต่มันเคยสร้างปัญหามาแล้วกับช่างภาพทั่วโลก เราถึงฉันเอง คุณควรชาร์จทันทีที่คุณกลับจากการถ่ายรูป และเอาใส่เข้าไปกลับในกล้องทันทีที่ชาร์จเสร็จแล้ว
19) ความยาวโฟกัส (Focal Length)
ฉันใช้เลนส์ฟิกซ์ (prime lenses)คือ 28mm และ 35 mm สองตัวกับกล้องหนึ่งตัว สำหรับการถ่ายทุกอย่างของฉัน ส่วนมากใช้ 35mm ประมาณ 70% ที่เหลือก็ใช้ 28 mm มันต้องใช้เวลาที่จะต้องทำความคุ้นเคย แต่เมื่อคุ้นเคยแล้ว มันให้ผลลัพธ์ที่ดี การใช้เลนส์ในระยะเดียวกัน มันยังช่วยให้ภาพที่คุณถ่ายเป็นชุด หรือเป็นโปรเขคดูเข้ากันมากขึ้น – Justin Wilkes
20) เข้าร่วมกลุ่มเหล่านักถ่ายรูป
มีกลุ่มมากมายไม่ว่าจะเป็น Social Network อย่างเฟสบุ๊ค อาจเป็นกลุ่มหรือเป็น เพจ หรือไม่ก็เว็บอื่นๆ เช่น ABC Open หรือ flickr, 500px อื่นๆอีกมากมาย คุณไม่เพียงแค่โพสต์รูปของคุณลงไปได้ แต่จะมีคนมาให้คำติชม เพื่อคุณจะรู้ว่ารูปของคุณเป็นอย่างไร และคุณสามารถเรียนรู้อะไรใหม่ๆที่ช่วยพัฒนาทักษะของคุณ คุณอาจได้เพื่อนใหม่ด้วยก็ได้นะ
credits: Lisa Clarke open.abc.net.au
Lisa Clarke ได้เขียนบทความ แนะนำวิธีการถ่ายรูปให้ดีขึ้น ดังนี้ครับ
ฉันจะถ่ายรูปให้ดีขึ้นได้อย่างไร ?
ฉันโชคดีมากที่รู้จักอัจฉริยะด้านการถ่ายภาพมากมาย พวกเขาแนะนำฉันมากมาย ถ้าไม่มีพวกเขา ไม่มีทางที่ฉันจะกลายเป็นช่างภาพอย่างทุกวันนี้ได้
และคำถามที่ฉันถามพวกเขาคือ “ฉันจะถ่ายรูปให้ดีขึ้นได้อย่างไร ?” ฉันได้รวบรวมทิปและเทคนิคต่างๆอยู่หลายปี วันนี้ฉันจะมาแบ่งปัน เทคนิคที่ทำให้คุณก้าวไปอีกขั้น ดังนี้
1) ใกล้อีกนิด
อย่างที่ช่างภาพชื่อดังอย่าง Robert Capa เคยกล่าวไว้ว่า
หากภาพของคุณไม่ดีพอ แสดงว่าคุณยังไม่ใกล้พอ
ดังนั้นหากภาพของคุณยังไม่เจ๋ง ลองเข้าไปอีกก้าว หรือ สองก้าว เพื่อเข้าใกล้ subject ของคุณมากขึ้น เติมเต็มเฟรมของคุณด้วย subject ของคุณ และดูว่าภาพของคุณดีขึ้ยังไง เมื่อไม่มีเนื้อที่ว่างๆมากเกินไป ยิ่งใกล้ตัวแบบ มากขึ้น คุณก็สามารถเห็นการแสดงออกทางสีหน้าของตัวแบบได้มากขึ้น
2) ถ่ายรูปทุกวัน
ทางที่ดีที่สุดในการลับสกิลของคุณคือฝึก ฝึก และ ฝึก ถ่ายให้มากที่สุดเท่าที่คุณทำได้ ใช้เวลาในการอยู่หลังกล้องให้มากๆ และทักษะทางด้านเทคนิค ความสามารถในการควบคุมมันในการเล่าเรื่อง ก็จะเพิ่มขึ้นตามเวลาที่คุณใช้มัน อย่ากังวลมากไปเกี่ยวกับการถ่าย ประสปการณ์, สไตล์ของคุณ, เสียงของคุณ จะปรากฏออกมา และมันจะชัดขึ้น – Leah Robertson
3) มองแสง
ก่อนจะหยิบกล้องคุณขึ้นมา ให้ลองสังเกตุว่าแสงมาจากทางไหน และใช้มันให้เกิดประโยชน์ แสงมาจากดวงอาทิตย์หรือ แสงเทียมเช่นหลอดไฟ และเราจะใช้มันทำให้ภาพดีขึ้นได้อย่างไร ?
แสงมันกระทบฉาก หรือวัตถุอย่างไร มีพื้นที่ไหนโดนแสง มีพื้นที่ไหน เป็นเงา ทั้งหมดนี้จำทำให้คุณถ่ายภาพธรรมดาๆ ได้อย่างไม่ธรรมดา
4) สอบถามสิทธิ์
เมื่อเราถ่ายคนโดยเฉพาะประเทศที่มีวัฒนธรรมและภาษาต่างจากเรา มันยากที่จะติดต่อสื่อสารกัน ในบางประเทศหากคุณไปถ่ายคนที่ควรควรถ่าย อาจเกิดปัญหาตามมา ดังนั้นควรถาม หรือ ขอ พวกเขาก่อนจะถ่าย ฉันเคยไปถ่ายเด็กๆ ในปากีสถาน ไกด์ของฉันช่วยฉันสื่อสาร และฮะนก็ยิ้มให้พวกเขา จับมือ ทักทาย และโชว์รูปหลังกล้องให้พวกเขาดูเมื่อถ่ายเสร็จ คุณจะประหลาดใจว่าพวกเขาเปิดใจรับคุณได้เร็วได้ขนาดนั้นได้อย่างไร – Andrea Francolini
5) ใช้แฟลช ตอนกลางวัน
คุณอาจคิดว่าควรใช้แฟลชเฉพาะกลางคืนเท่านั้น หรือ ในที่ร่ม แต่ถ้าคุณไปเจอแดดแรงๆ และดวงอาทิตย์ทำให้เกิดเงามืด คุณควรใช้แฟลชเพื่อลบเงาเพื่อให้ภาพดีขึ้น
6) ISO
มีคำถามที่ต้องถามตัวเองว่าเมื่อไหร่ ถึงจะใช้ ISO ไหน:
กี่โมงแล้ว ? ถ้าคุณถ่ายในตอนกลางวัน คุณจะต้องใช้ ISO ต่ำ อย่าง 100,200 ถ้าคุณถ่ายในกลางคืนโดยไม่มีขาตั้ง จะต้องเพิ่ม ISO ให้สูงขึ้น เพื่อเก็บแสงมาบน เซ็นเซอร์กล้องของคุณ
แสงลงที่วัตถุดีหรือยัง ? ถ้า subject หรือฉาก มืดเกินไป คุณจะต้องเพิ่มค่า ISO ขึ้น
คุณต้องการภาพคม หรือ ภาพที่มีการเคลื่อนไหว การใช้ชัตเตอร์สปีดสูง ทำให้คุณต้องใช้ ISO ที่สูง เพื่อเป็นการชดเชย ในทำนองเดียวกับถ้าอยากได้ภาพที่มีการเคลื่อนไหว ที่ใช้ ชัตเตอร์สปีดต่ำๆ เพื่อให้ภาพเบลอ คุณต้องใช้ ISO ต่ำๆ เพื่อชดเชย
อย่าลืมว่าการเพิ่ม ISO มันจะเพิ่ม Grain หรือ Pixel ในภาพ เมื่อใช้ ISO สูงเกินไปก็จะทำให้เกิน Noise มากขึ้นตามไปด้วย
7) F4
F4 เป็น aperture(รูรับแสง) หลักของฉัน ถ้าคุณใช้ aperture ที่กว้าง ด้วยเลนส์ระยะยาว (200mm-400mm)
คุณสามารถแยก subject ออกจาก background ได้ มันช่วยให้ subject เด่นขึ้น – Peter Wallis
8) เล่นมุกตลกบ้าง
เมื่อคุณเล่นมุกตลก คุณก็มักจะได้รอยยิ้มที่เป็นธรรมชาติ มากกว่าสั่งให้เขายิ้ม –Dean Bottrell
9) ซื้อหนังสือ ไม่ใช่อุปกรณ์
การมีกล้องแพงๆไม่ได้หมายความว่าคุณจะถ่ายภาพได้สวย ฉันเคยเห็นรูปสวยมากมายโดยใช้แค่มือถือ แทนที่จะใช้เลนส์เป็นสิบตัว ลงทุนกับหนังสือภาพดีๆ โดยดูจากงานของระดับ master คุณไม่เพียงได้แรงบันดาลใจ คุณจะได้ไอเดียเพื่อพัฒนารูปของคุณ
10) อ่านคู่มือของกล้องคุณ
วิธีที่ดีที่สุดที่จะรู้ว่าคุณทำอะไรกับกล้องคุณได้บ้างคืออ่านคู่มือ หลายคนพลาดขั้นตอนที่สำคัญไปในการถ่ายรูปของเขา กล้องทุกตัวนั่นต่างกัน อ่านคู่มือแล้วคุณจะรู้ว่าทุกอย่างที่มันสามารถทำได้
11) ช้าลงหน่อย
ใช้เวลาคิดซักหน่อยเกี่ยวกับอะไรที่เกิดขึ้นที่ช่องมองภาพ ก่อนที่จะกด ชัตเตอร์ คุณจะจัเองค์ประกอบอย่างไร คุณจะจัดการแสงอย่างไร อย่าถ่ายไปเรื่อยๆ โดยไม่คิด – Brad Marsellos
12) หยุดเช็ครูปหลังกล้องบ่อยๆ
มันเป็นนิสัยที่แย่ของช่างภาพที่ใช้กล้อง Digital บ่อยครั้งที่ฉันเห็นช่างภาพถ่ายปุ๊ปก็รีบดูหลังกล้องเลย โดยเขาพลาดจะพลาดจังหวะสำคัญๆ ไป คุณสามารถดูภาพของคุณทีหลังก็ได้ แต่หากคุณพลาดจังหวะเด็ดๆ ไปนั่นคือคุณพลาดโอกาสที่จะได้งานดีๆ ดังนั้นจงถ่ายไปเรื่อยๆ – Marina Dot Perkins
13) ใส่กรอบให้ภาพ (Framing)
เป็นเทคนิคที่ใช้เมื่อคุณอยากดึงความสนใจไปยังบางอย่างในภาพของคุณ การใส่กรอบฉากหรือวัตถุ อาจใช้หน้าต่างหรือ หลังคารูปโค้งนำสายาตไปยัง จุดที่น่าสนใจบนภาพ
14) ใช้แสงให้เป็นประโยชน์
อย่าถ่ายตอนที่ดวงอาทิตย์อยู่ข้างหลังคุณ มันจะได้รูปที่น่าเบื่อ แสงจะแบน ถ้าคุณถ่ายแสงเข้าด้านข้างหรือหลังวัตถุ มันทำให้วัตถุดูน่าสนใจขึ้น – Patria Jannides
15) ลายน้ำ
ทิปนี้ไม่เกี่ยวกับการถ่ายรูป แต่มันมีผลกระทบต่อรูปของคุณ เมื่อมีลายน้ำก็ควรทำให้เล็ก แต่ถ้าหลีกเลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยง
เมื่อคุณยังไม่ใช่มืออาชีพมากนัก มันมีโอกาสน้อยที่จะโดนขโมย แต่ถึงอย่างนั้น ความเป็นจริงแล้ว ลายน้ำก็ไม่ได้ช่วยจากการขโมยหรอก มันจะเป็นตัวเบนความสนใจจากภาพของคุณซะมากกว่า
ทางเดียวที่คุณจะป้องกันการขโมยภาพได้ คืออย่าอัพลงอินเตอร์เน็ต
16) เป็นมิตรกับคนที่จะถ่ายด้วย
คุณควรจะสบตาเขา เข้าไปทัก ไปพูดคุย และฟังเขา วางกล้องลงก่อน พยายามเชื่อสัมพันธไมตรี ค่อยหยิบกล้องมาถ่ายเมื่อได้จังหวะจริงๆ อย่าปฏิบัติต่อพวกเขาเมื่อการทดลองวิทยาศาสตร์ภายใต้กล้องจุลทรรศ์ คุณต้องเคารพคนที่คุณจะถ่ายด้วย แล้วภาพจะออกมาเป็นธรรมชาติมากขึ้น – Heather Faulkner
17) ความเร็วชัตเตอร์
การตะหนักถึงการใช้ความเร็วชัตเตอร์ของคุณ จะสร้างความแตกต่างระหว่างภาพเบลอ และภาพชัด มันขึ้นอยู่กับว่าอะไรที่คุณจะถ่ายด้วย ถ้าคถณถ่ายกีฬา หรือเด็กกำลังวิ่งในสนาม และคัณอยากให้ subject ชัด คุณอาจต้องการความเร็วชัตเตอร์มากกว่า 1/500 แต่ถ้าคุณอยากถ่ายแสงของรถที่เป็นไฟยาวๆ (car trail lights) คุณต้องใช้ความเร็วชัตเตอร์ต่ำๆ เพื่อถ่าย Long Exposure อาจ หนึ่ง วินาที สิบวินาที หรือมากกว่านั้น
18) ชาร์จแบตเตอรี่
มันเหมือนเป็นเรื่องธรรมดา แต่มันเคยสร้างปัญหามาแล้วกับช่างภาพทั่วโลก เราถึงฉันเอง คุณควรชาร์จทันทีที่คุณกลับจากการถ่ายรูป และเอาใส่เข้าไปกลับในกล้องทันทีที่ชาร์จเสร็จแล้ว
19) ความยาวโฟกัส (Focal Length)
ฉันใช้เลนส์ฟิกซ์ (prime lenses)คือ 28mm และ 35 mm สองตัวกับกล้องหนึ่งตัว สำหรับการถ่ายทุกอย่างของฉัน ส่วนมากใช้ 35mm ประมาณ 70% ที่เหลือก็ใช้ 28 mm มันต้องใช้เวลาที่จะต้องทำความคุ้นเคย แต่เมื่อคุ้นเคยแล้ว มันให้ผลลัพธ์ที่ดี การใช้เลนส์ในระยะเดียวกัน มันยังช่วยให้ภาพที่คุณถ่ายเป็นชุด หรือเป็นโปรเขคดูเข้ากันมากขึ้น – Justin Wilkes
20) เข้าร่วมกลุ่มเหล่านักถ่ายรูป
มีกลุ่มมากมายไม่ว่าจะเป็น Social Network อย่างเฟสบุ๊ค อาจเป็นกลุ่มหรือเป็น เพจ หรือไม่ก็เว็บอื่นๆ เช่น ABC Open หรือ flickr, 500px อื่นๆอีกมากมาย คุณไม่เพียงแค่โพสต์รูปของคุณลงไปได้ แต่จะมีคนมาให้คำติชม เพื่อคุณจะรู้ว่ารูปของคุณเป็นอย่างไร และคุณสามารถเรียนรู้อะไรใหม่ๆที่ช่วยพัฒนาทักษะของคุณ คุณอาจได้เพื่อนใหม่ด้วยก็ได้นะ
credits: Lisa Clarke open.abc.net.au
0 ความคิดเห็น